แม้มิอาจเอื้อนเอ่ยถ้อยคำใด หัวใจดวงนั้นก็พิสุทธิ์เลิศล้ำเฉิดฉันยิ่งกว่าจันทราสีเงินที่เจิดจรัสเหนือฟากฟ้ารัตติกาล
…
เพียงเพราะนึกเอ็นดูสาวน้อยผู้สูญเสียถ้อยคำไปในวัยเด็ก และเห็นว่าเธอคือผู้เดียวที่สามารถเก็บงำความลับของตนมิให้ผู้ใดล่วงรู้ ท่านชายเจ็ดแห่งวังอวี๋จวิ้นอ๋อง
จึงตัดสินใจรับตัวหญิงรับใช้ฐานะต่ำต้อยมาเป็นสาวใช้ต้นห้อง โดยไม่แยแสคำทัดทานใดๆ จากผู้คนรอบข้าง จึงเป็นโอกาสที่คนสองคนซึ่งแตกต่างกันแทบทุกด้านได้มาอยู่ร่วมกัน คนหนึ่งนั้นแม้จะพรั่งพร้อมไปด้วยทุกสิ่งสรรพ แต่หัวใจกลับร้อนรุ่มเพราะเปี่ยมล้นไปด้วยความแค้น ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นแม้ชีวิตจะทุกข์ยากเหลือแสน แต่ความท้อแท้สิ้นหวังก็ไม่เคยทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าเลือนหายไปสักครา
ก่อเกิดความรู้สึกอบอุ่นดุจดวงตะวัน หลอมละลายความโดดเดี่ยวอ้างว้าง ทำให้เขาและเธอรู้ซึ้งถึงความรู้สึกในหัวใจตนเองในที่สุด
ความมืดมิดฉาบฉายอยู่ในหัวใจอันแสนอ้างว้างเดียวดายเฝ้ารอวันที่ความทุกข์ซึ่งถูกพันธนาการไว้จะได้รับการปลดปล่อย
…
นับแต่หนีออกมาจากวัดพยัคฆ์โผนที่ถูกมารดานำตัวไปฝากครั้งวัยเยาว์ ไม่มีครั้งใดที่จิ่วเอ๋อร์ บุตรชายของอดีตขุนโจรจะสุขสบายสักครา ต้องใช้ชีวิตอดมื้อกินมื้ออย่างคนเร่ร่อนไปวันๆ ก่อกรรมทำเข็ญมากมายเพียงเพื่อขอให้ตนอิ่มท้องและเอาตัวรอดไปวันๆ
และแล้วโอกาสสำคัญก็มาถึง เมื่อปิ่นปักผมที่ขโมยมาทำให้เขาสามารถปลอมตนเป็นท่านชายแห่งวังเซิ่นจิ้งจวิ้นอ๋องได้เป็นผลสำเร็จ ยังผลให้ชีวิตแร้นแค้นเปลี่ยนไปชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ ความสุขสบายทั้งหลายทั้งมวลตกอยู่ในกำมือ
แต่เมื่อได้พบหน้าธิดาองค์เล็กของเซิ่นจิ้งจวิ้นอ๋อง ได้สัมผัสถึงจิตใจอันบริสุทธิ์ดีงาม คำลวงและความสัมพันธ์ฉันพี่น้องจอมปลอมจึงย้อนคืนกลับมาทำร้ายเขาไปเสียสิ้น
ทว่า… หากเปิดเผยความรู้สึกและตัวตนที่แท้จริงออกไป คงมีเพียงโทษทัณฑ์แห่งความตายเท่านั้นที่รอคอยเขาอยู่เบื้องหน้า!