หนึ่งนางผู้ใจแข็งดั่งศิลา กับหนึ่งบุรุษผู้มีใจรักมั่น ดุจสายธารที่มิไหลย้อนคืน
คราแรกนั้นนางคือหมอหญิง ผู้พรางใบหน้าท่อนล่างด้วยม่านไหม
คราถัดมานางคือมือพิณแห่งสำนักโคมเขียว ผู้พรางดวงตามิให้ชายใดแลเห็น
คราที่สามนางคือคุณหนูสูงศักดิ์ ผู้พรางโฉมตั้งแต่ศีรษะจรดบ่าบาง
ทั้งสามคราหาใช่ตัวตนที่แท้จริง ทั้งสามครานางต้องตระหนักว่าห้ามมอบใจให้ชายใด ทว่านางมารน้อยจะข่มใจได้หรือไม่ ในเมื่อบุรุษผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ พบเจอนางสามครั้ง สามตัวตน เขาก็ยังมีใจให้นาง แม้ทุกคราที่ว่านั้น เขาจะไม่เคยเห็นใบหน้านางเลยก็ตาม
คราแล้วคราเล่าที่เขามอบใจให้นาง
และคราแล้วคราเล่าเช่นกัน ที่นางทำร้ายเขา ทั้งร่างกายและจิตใจ!
********************************************************
“เอาสิเพ่ยจู ร้องขอยาถอนพิษจากข้า”
“ข้ามิได้มาร้องขอ ข้ามาแลก” เอ่ยแล้วแทบหยุดหายใจ พวงแก้มเห่อร้อน อาจเพราะสิ่งที่เพิ่งเอ่ย หรือร้อนเพราะฤทธิ์สุราก็เป็นได้
เพ่ยจูขยับเข้าไปหาชายที่ใต้เพิงมุงหญ้า เขาตบเบาๆ ลงบนเสื้อคลุมที่ปูอยู่ มาดราวกับคุณชายผู้มั่งมีกำลังเรียกนางโลมในหอคณิกา
“หากเจ้ากล้าใช้เล่ห์เหลี่ยมกับข้า รับรองว่าเจ้าได้สิ้นลมด้วยมือของข้าแน่”
นั่นคือคำขู่ของหยางหลง เพ่ยจูกัดฟันกรอดๆ นั่งลงข้างเขาแล้วปลดเอาผ้าคาดเอวออกจากร่าง หยางหลงไม่รอให้นางได้ถอดอาภรณ์ห่อกาย เขาดึงร่างนางลงไปหาด้วยแรงอันมากมี นางตื่นตระหนกแต่เก็บซ่อนความตื่นกลัวไว้ใต้ร่างอันแข็งทื่อ
“เจ้าควรทำให้ข้าพอใจ มิใช่นอนแข็งเป็นท่อนไม้”
“ข้าหาใช่นางคณิกาจะได้รู้วิชาเอาใจบุรุษ”
คำตอบนั้นทำให้เจ้าหยางหลงยิ้มหวานราวกับพบเจอแท่งทอง นางเอื้อมมือไปยังเชือกที่ผูกผ้าคลุมหน้า แต่เขาไวกว่าจับมือนางไว้มิให้ปลดออก
“ข้าบอกหรือว่าอยากเห็นหน้าเจ้า?”
มือนางหลุดจากเชือกผ้าคลุมทันใด นางได้ยินผิดไปหรือไม่
“สิ่งที่ข้าต้องการคือของแลกเปลี่ยนกับยาถอนพิษ เจ้าเคยบอกว่ามีใบหน้างดงามจนข้าอาจยอมล่มเมือง หากเจ้าใช้ความงามมาล่อลวงข้า ข้ามิแย่เอาหรือ เช่นนี้…กันไว้ดีกว่าแก้จะดีกว่า หึๆๆ” แล้วหยางหลงก็ดึงชายผ้าคลุมหน้านาง จากปลายคางมนเลิกขึ้นไปกองไว้ด้านบน บัดนี้ตั้งแต่สันจมูกจนถึงหน้าผากนางจึงถูกพรางไว้ เผยริมฝีปากอิ่มงามท้าทายแรงกระหายราคะแห่งบุรุษ
“จะทำอะไรก็รีบทำเข้าเถิด ที่นี่คือริมหน้าผาหาใช่ห้องหอของท่าน”
“ข้าจะนึกเอาแล้วกัน ว่านี่คือคืนแต่งงานของข้า ”